พลังเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ ของ “ใบตอง-กีรตินุช เหลืองอังกูร”
ข่าว
นักกิจกรรมบำบัด ผู้ระดมทุนสนับสนุนองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ผ่านการจัดกิจกรรม Challenge และการจำหน่ายของแฮนด์เมด ต่อเนื่องนับ 10 ปี
ภาพลายเส้นรูปหัวใจที่ถูกแบบครึ่งเป็นรูปไก่และหมูในหัวใจดวงเดียวกันด้วยสีสันสดใสอยู่บนเสื้อทีเชิ้ต ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะใครบางคนวาดรูปได้ และอยากจะลุกขึ้นมาเพ้นต์เสื้อสวยๆ ใส่ หรือแสดงความสามารถให้คนชื่นชมเท่านั้น แต่เสื้อเพ้นต์มือจากฝีมือการวาดของ “คุณใบตอง-กีรตินุช เหลืองอังกูร” นักกิจกรรมบำบัด คุณครูสอนศิลปะเด็ก เจ้าของกิจกรรมเวิร์คช็อปเสื้อเพื่อสัตว์ ที่องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย จัดขึ้นในงาน “Happy Meat Happy Me สัตว์อยู่ดี คนอยู่ได้” ที่ผ่านมานั้น เกิดจากความตั้งใจของคุณใบตอง ในการอยากเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ให้สัตว์ในฟาร์มมีความเป็นอยู่หรือมีสวัสดิภาพที่ดีขึ้น เพราะคุณภาพชีวิตของสัตว์ส่งผลถึงสุขภาพชีวิตของมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับหลายๆ กิจกรรมที่เธอทำเพื่อหารายได้ระดมทุนช่วยเหลือสัตว์ผ่านองค์กรพิทักษ์สัตว์โลก ประเทศไทยเป็นประจำตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
ร่วมเป็นกระบอกเสียงเล็กๆ ช่วยเหลือสัตว์
“ไม่ว่าจะหมูหรือไก่ ล้วนเป็นสัตว์ที่มนุษย์เลี้ยงไว้บริโภคเป็นอาหาร แม้เราจะยังเป็นคนหนึ่งที่รับประทานเนื้อสัตว์อยู่ แต่สิ่งที่อยากสื่อสารผ่านการเพ้นต์เสื้อวันนี้คือ อยากขอบคุณสัตว์เหล่านี้ที่เขาเป็นอาหารให้กับเรา และในฐานะคนรักสัตว์ รวมถึงบทบาทของคนเป็นแม่ที่ต้องการให้ลูกได้บริโภคอาหารที่มีคุณภาพ ปราศจากพิษภัย จึงอยากร่วมเป็นกระบอกเสียงในการช่วยสะท้อนให้คนตระหนักว่า การทรมานสัตว์ของฟาร์มปศุสัตว์เชิงอุตสาหกรรม นอกจากจะสร้างความเจ็บปวดให้สัตว์แล้ว ยังส่งผลเสียต่อผู้บริโภคอีกด้วย เพราะสัตว์ที่ถูกเลี้ยงแบบไร้สวัสดิภาพ จะเกิดความเครียดเป็นสารเคมีสะสม เมื่อเรารับประทานเข้าไปเท่ากับว่า เราได้รับสารเคมีที่เจือปนอยู่นั้นเข้าไปในร่างกายของเราด้วย”
คุณใบตองเล่าถึงแรงบันดาลใจของภาพวาดที่เธอตั้งใจสื่อสารผ่านกิจกรรมเวิร์คช็อปที่ผ่านมา โดยจุดเริ่มต้นของการเป็นผู้สนับสนุนที่ดีขององค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอมาจากเหตุผลง่ายๆ เพียงเพราะเธอเป็นคนรักสัตว์ และอยากช่วยเหลือสัตว์ตามความถนัดของตัวเอง
อยากช่วยที่ต้นเหตุของปัญหา
หลังจากที่เธอมีโอกาสรับรู้และเข้าใจวิธีการทำงานขององค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย ที่มีความมุ่งเน้นการทำงานเชิงนโยบายในการช่วยเหลืออย่างยั่งยืน ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือสัตว์ของเธอ
“เรามองว่าการช่วยสัตว์แบบให้เงินซื้ออาหารช่วยสัตว์ที่หลายคนเรียกว่าทำบุญ เป็นการช่วยที่ปลายเหตุ วันนี้ให้เงินซื้ออาหารเดี๋ยวก็หมดไป มื้อต่อไป วันต่อไป ก็ต้องรอคอยให้คนมาซื้ออาหารต่อไปอีก ถ้าวันไหนไม่มีใครซื้อหรือบริจาคเงินให้สัตว์เหล่านั้นจะทำยังไง แต่การทำงานขององค์กรพิทักษ์สัตว์โลก ประเทศไทย คือการช่วยที่ต้นเหตุด้วยการเข้าไปแก้ไขที่ต้นตอของปัญหา ตั้งแต่เริ่มช่วยองค์กรฯ มา เราเองก็ได้ความรู้ไปด้วย อย่างเมื่อก่อน เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไปดูการแสดงของช้าง ไปขี่ช้างเที่ยว โดยที่ไม่รู้เลยว่าเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้เขาถูกทรมาน หรือแม้แต่เรื่องง่ายๆ ใกล้ตัวอย่างการเลี้ยงสุนัข จากที่เราไม่คิดว่าการพาสุนัขไปฉีดวัคซีนประจำปีเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อเราได้รับรู้ เราก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และส่งต่อความรู้ให้คนรอบข้างให้เขาได้รู้ ได้ตระหนัก ได้นำไปปรับเปลี่ยนตัวเองเหมือนอย่างที่เราเป็น”
ระดมทุนสนับสนุนองค์กรฯ นานนับ 10 ปี
ด้วยเหตุนี้เธอจึงเริ่มต้นใช้โซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์ ด้วยการคิดกิจกรรม Challenge ต่างๆ ทั้งชวนเพื่อนงดบริโภคเนื้อสัตว์หนึ่งวัน ชวนเพื่อนคิดหาวิธีการสร้างความสุขในแบบฉบับของตัวเอง ชวนเพื่อนทำคลิปวีดีโอบอกเล่าวิธีการรักษ์โลก รวมถึงการทำของใช้แฮนด์เมดโดยใช้ความสามารถที่เธอมีประดิษฐ์ของต่างๆ จำหน่าย โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนกิจกรรม Challenge และการจำหน่ายของแฮนด์เมดทั้งหมด ใบตองได้นำมาร่วมสมทบทุนมอบให้องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย เป็นประจำทุกปี
“เริ่มทำตั้งแต่ปี 2013 ค่ะ แล้วก็ตั้งใจว่าจะทำต่อไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่เราจะยังมีแรงและความสามารถ เริ่มต้นมีเพื่อนบางคนไม่เข้าใจ แต่พอเขาเห็นสิ่งที่เราสื่อสารออกไปบ่อยๆ เขาก็เริ่มเข้าใจ และร่วมบริจาคกับเราด้วย เรารู้สึกว่าแม้เราจะเป็นแค่คนตัวเล็กๆ ธรรมดาคนนึงที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร แต่ถ้าเรามีความตั้งใจที่จะช่วยบอกต่อ ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง อย่างน้อยก็มีคนที่รับรู้เพิ่มขึ้น เราก็สามารถช่วยเหลือสัตว์ได้ แม้บางคนเขาอาจไม่พร้อมที่จะช่วยบริจาค แต่เขาได้รู้ข้อมูลว่าสัตว์ได้รับความเดือดร้อนอย่างไร วิธีการไหนที่จะสามารถช่วยสัตว์ให้มีสวัสดิภาพที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ วิธีการไหนที่เราจะช่วยโลก ช่วยสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นได้ เท่านี้ก็ดีมากแล้ว
ถามว่าสิ่งที่ทำมาตลอด 10 ปีมีความท้อแท้บ้างไหม ก็มีบ้าง ความที่เราเองอยากได้เงินบริจาคเยอะๆ แต่ละปีก็เริ่มกดดันตัวเองว่ายอดบริจาคต้องเพิ่มขึ้น ต้องได้เท่านั้นเท่านี้ สุดท้ายเมื่อเรากลับไปตั้งหลัก กลับไปดูวัตถุประสงค์ ไปดูที่ความตั้งใจเริ่มต้นของตัวเองว่าเราแค่ต้องการช่วยในสิ่งที่เราทำได้ ความกดดัน ความท้อต่างๆ ก็หายไป แล้วมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองทำ บอกตัวเองว่าได้เท่าไหนก็เท่านั้น”
นอกจากจะสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อระดมทุนหายรายได้ หรือทำของแฮนด์เมดขายแล้ว คุณใบตองยังส่งต่อความเอื้ออาทรที่มีต่อสัตว์ให้กับลูกศิษย์ตัวเล็กๆ ที่เรียนศิลปะกับเธอ ด้วยการให้ความรู้ว่าเราควรมีเมตตาต่อสัตว์อย่างไร สัตว์โลกควรมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร อะไรที่มนุษย์สามารถช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ ได้บ้าง
สิ่งที่เธอทำอาจไม่ได้ยิ่งใหญ่ แต่อย่างน้อยเธอเป็นคนหนึ่งที่ใช้หัวใจ ใช้ความสามารถที่มีช่วยสร้างความตระหนักรู้ส่งต่อไปถึงผู้อื่นได้ แม้จะไม่มากมาย แต่ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย อย่างที่เธอกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า
“จะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ เราสามารถทำสิ่งดีๆ เพื่อโลกได้เสมอ ทำเท่าที่กำลังของเราจะทำได้”
“จะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ เราสามารถทำสิ่งดีๆ เพื่อโลกได้เสมอ ทำเท่าที่กำลังของเราจะทำได้