สุนัขที่ถูกทิ้งกว่า 300 ตัวจากผลกระทบโควิด19 กับความช่วยเหลือทั่วโลก
ข่าว
ผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลกระทบทำให้สุนัขและแมวจำนวนมากถูกนำมาปล่อยตามวัดและศูนย์พักพิงต่างๆ
สมุทรปราการ – ล็อกดาวน์ไปเกือบสองเดือนจากโรคระบาดโควิด19 ล่าสุดรัฐบาลเริ่มคลายล็อกให้บ้านเราสามารถใช้ชีวิตได้บ้าง แต่ถึงแม้จะมีการผ่อนผันกันบ้างแล้ว ผลกระทบที่ถูกล็อกมานานก็ส่งผลไม่เพียงแต่คนเท่านั้น สัตว์เลี้ยงเองก็โดนผลกระทบนี้ไปด้วยเช่นกัน
ดังเช่นที่วัดหัวคู้ จังหวัดสมุทรปราการที่เป็นสถานที่มีการปล่อยสุนัขเกือบ 300 ตัวเพราะเนื่องจากคนเลี้ยงไม่สามารถดูแลน้องหมาต่อได้ ด้วยภาวะว่างงานหรือขาดรายได้นั่นเอง
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย (World Animal Protection) จึงได้ร่วมส่งมอบอาหารสัตว์กว่าสองตันให้แด่วัดหัวคู้ เพื่อให้ผู้ดูแลนำไปเลี้ยงสุนัขจรที่ถูกปล่อยทิ้งที่วัด โดยร่วมถวายแด่ พระปริยัติวงศาจารย์ (ประชุม ปวโร) จากเจ้าอาวาสวัดหัวคู้ ตำบลบางเสาธง - ศรีษะจระเข้ จังหวัดสมุทรปราการ
วัดหัวคู้นี้ได้ให้การช่วยเหลือสุนัขจรจัดมาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว แต่เนื่องจากเมื่อก่อนยังมีจำนวนสุนัขไม่มากจึงสามารถนำปัจจัยอาหารจากทางผู้มีจิตศรัทธามาจุนเจือให้แก่สุนัขจรจัดได้บ้าง
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์โรคระบาดโควิด19 เกิดผลกระทบทำให้คนว่างงานและขาดรายได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงของตนเองได้ จึงมีการนำมาปล่อยที่วัดเป็นจำนวนมาก ทุกวันนี้ทางวัดต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูสุนัขจรจัดเกือบ 300 ตัวและยังไม่นับค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแลสุนัขกำลังป่วยอีก 2 ตัวด้วย
“พอดีเรามีพื้นที่เหลือ ก็เลยกั้นให้เป็นที่อยู่อาศัยของสุนัขพวกนี้แทน พอคนเอามาปล่อย เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ต้องเลี้ยงเขาไป มันเลยกลายเป็นว่าวัดเป็นที่สุดท้ายของเขา ใครๆ ก็เอามาปล่อยที่นี่ เราจะให้เขาอดอยากได้อย่างไร ปกติมีญาติโยมมาทำบุญใส่บาตรเยอะมาก พอเกิดโควิดเหลือแค่ห้าคน ทำให้อาหารการกินลดน้อยลงไป
อีกอย่างพอคนมาทำบุญ สุนัขบางตัวก็ไปกัดเขาก็เลยทำให้คนไม่กล้าเข้าวัดมากขึ้น ก็อยากให้โยมทั้งหลายที่เอาเขามาเลี้ยงก็ดูแลให้ความรักเขาเถอะ เพราะเขาก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน” พระปริยัติวงศาจารย์ (ประชุม ปวโร) จากเจ้าอาวาสวัดหัวคู้
นอกจากสุนัขที่ถูกนำมาปล่อยที่วัดนี้ ก็ยังมีแมวอีกจำนวนเกือบ 100 ตัวที่ถูกนำมาทิ้งด้วยเช่นกัน ส่วนการดูแลสุนัขและแมวจรจัดของวัดนี้จะมีการให้อาหารวัดละสองมื้อ คือเช้าและเย็น โดยแบ่งคนดูแล 2 คนสำหรับพื้นที่สุนัขและ 1 คนสำหรับพื้นที่แมว
อาหารส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารเม็ด สลับกับข้าวไปบ้างเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแล อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายด้านอาหารให้กับสุนัขและแมวจรจัดก็ยังเป็นภาระอันหนักอึ้งสำหรับทางวัด
นายสมศักดิ์ สุนทรนวภัทร หัวหน้าฝ่ายรณรงค์ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย ได้กล่าวถึงความเป็นมาในกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิดขึ้นมาก็สร้างผลกระทบให้กับคนในบ้านเรา หลายธุรกิจต้องปิดหมด งานก็ต้องหยุด ทำให้คนส่วนมากไม่มีงานทำกัน ขาดรายได้ ส่งผลกระทบกับสุนัขไปด้วย
เมื่อก่อนเคยมีรายได้ พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นก็ไปมีผลกระทบต่อเจ้าของสุนัข ก็ไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูสุนัขได้ ก็นำไปปล่อยตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงในวัดซึ่งเป็นสถานที่ๆ มีการปล่อยมากที่สุด กลายเป็นปัญหาให้กับวัดที่ต้องมาดูแล และด้วยวัดหัวคู้เป็นแหล่งอยู่ใกล้ชุมชน และโรงงาน ซึ่งเป็นสถานที่ที่น่าจะมีการเลี้ยงสุนัขเยอะ และเมื่อมีการขยายพันธุ์มากขึ้นก็เลี้ยงไม่ไหว ก็มาปล่อยที่วัดแทน
ด้วยเหตุนี้ ทางองค์กรพิทักษ์สัตว์โลก ประเทศไทย จึงได้ร่วมสนับสนุนค่าอาหารสุนัขเป็นหลักรวมถึงข้าวสารเพื่อเป็นการช่วยเหลือสุนัข และแบ่งเบาภาระของวัดไปด้วย ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นการแก้ปัญหาในระยะฉุกเฉิน แต่สิ่งที่เราอยากย้ำคือ เมื่อมีสุนัขเลี้ยงก็ควรจะต้องมีเจ้าของคอยดูแล มีการทำหมัน มีการฉีดวัคซีน นั่นจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด” นายสมศักดิ์กล่าว
กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของภายใต้โครงการ “Life’s Better with Dogs” ที่มีวัตถุประสงค์ในการยกระดับที่ดีขึ้นของสุนัข ซึ่งทางองค์กรฯได้ร่วมกับเป็นพันธมิตรกับกรมปศุสัตว์ โดยมีกิจกรรมที่ผ่านมาในการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมสนับสนุนจัดพิมพ์คู่มือสำหรับอาสาสมัครผู้ซึ่งได้รับการฝีกอบรมจากสัตว์แพทย์ในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอีกด้วย
เราอยากให้บ้านเป็นสถานที่สุดท้ายในชีวิตของสัตว์เหล่านี้