เข้าช่วยเหลือหมี 5 ตัวจากอุตสาหกรรมค้าดีหมีที่แสนโหดร้ายในเวียดนาม

อุตสาหกรรมการค้าดีหมี

การแสวงหาผลประโยชน์จากหมีด้วยการเจาะช่องท้องเพื่อเอาน้ำดี นับเป็นการทำทารุณกรรมสัตว์ที่เลวร้ายที่สุดรูปแบบหนึ่งในโลกปัจจุบัน

กว่าทศวรรษที่หมีทั้ง 5 ตัวนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ในกรงแคบๆ ในจังหวัด Tieng Giang ประเทศเวียดนาม พวกมันต้องทนกับความเจ็บปวดทรมาน หิว กระหาย ทั้งยังต้องทนความเจ็บปวดจากการเจาะช่องท้องเพื่อเอาน้ำดีมาใช้ในการผลิตยาแผนโบราณ

นอกจากนี้สภาพแวดล้อมที่พวกมันอาศัยอยู่ยังก่อให้เกิดโรคต่างๆ อีกมากมาย

สภาพของหมีก่อนได้รับการช่วยเหลือในจังหวัด Tieng Giang ประเทศเวียดนาม หมีที่ถูกนำมาเจาะเพื่อเอาน้ำดีต้องอาศัยอยู่ในกรงแคบๆเช่นนี้

ในประเทศเวียดนาม การ “ครอบครอง” หมียังเป็นกิจกรรมที่ถูกกฎหมาย แต่การดูดดีจากสัตว์ที่ยังมีชีวิต หรือการเพาะพันธุ์หมีเพื่อจุดประสงค์เชิงพาณิชย์นั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

น่าเศร้าที่ยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายนี้อย่างเข้มงวด ทำให้ในขณะนี้มีการประมาณว่าอาจจะมีหมีถึง 780 ตัวหลงเหลืออยู่ในฟาร์มสกัดดีหมีในประเทศเวียดนาม

การเข้าช่วยเหลือ

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรัฐบาลเวียดนามในท้องถิ่น ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรของเรา Education for Nature Vietnam (ENV) เพื่อเข้าพูดคุย และโน้มน้าวจนเจ้าของหมีทั้ง 5 ตัวนี้ ยอมปล่อยหมีเหล่านี้ให้เป็นอิสระ

นอกจากนี้ ENV และพันธมิตรยังได้จัดเตรียมที่พักพิงที่ปลอดภัยให้กับหมีเหล่านี้ และกำลังเคลื่อนย้ายพวกมันไปยังศูนย์บริบาลหมี Animal Asia Foundation ในเมือง Tam Dao ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากจังหวัดฮานอย

ยุติความทุกข์ทรมานครั้งสุดท้าย เพื่อหมีที่เหลือทั้งหมด

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกและ ENV ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดมานับทศวรรษเพื่อยุติความทุกข์ทรมานของหมีจากการถูกแสวงหาผลประโยชน์ในประเทศเวียดนาม และสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีหมีตัวใดถูกกักขังเพิ่มขึ้น ให้พวกมันได้อาศัยอยู่ในป่า ที่ที่พวกมันสมควรอยู่จริงๆ

นอกจากนี้เรายังช่วยรัฐบาลในการฝังไมโครชิปหมีที่ถูกกักขังเพื่อป้องกันการลักลอบนำหมีตัวใหม่ป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรม และช่วยให้สามารถตรวจสอบ ยืนยัน และยึดหมีเหล่านี้ส่งไปยังศูนย์บริบาลหมีได้

องค์กรฯกำลังทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อยุติการเพาะพันธุ์หมีเพื่อเอาดีหมีในประเทศเวียดนาม และยุติกรทำทารุณกรรมสัตว์เหล่านี้ต่อไป

“เรากำลังช่วยนำหมีในประเทศเวียดนามมาสู่พื้นที่ปลอดภัย ซึ่งพวกมันอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการเยียวยาความเครียดทางจิตใจและความเจ็บปวดที่พวกมันต้องทนทุกข์ทรมาน แต่เรามีความยินดีที่ตอนนี้หมีเหล่านี้ได้มีชีวิตอยู่ในสถานที่ที่สงบสุขและไม่มีอันตรายอีกต่อไป”

ในที่สุดก็ปลอดภัย

ดร. Karanvir Kukreja ผู้จัดการแคมเปญ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก กล่าวว่า : “ไม่มีวิธีที่มีมนุษยธรรมใดๆ สำหรับการสกัดน้ำดีออกจากหมีที่ยังมีชีวิตอยู่ พวกมันจะต้องทนทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกาย และจิตใจไปตลอดทั้งชีวิตในกรงขัง”

“เรากำลังช่วยนำหมีในประเทศเวียดนามออกมาสู่พื้นที่ปลอดภัย ซึ่งพวกมันอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการเยียวยาจิตใจและความเจ็บปวดที่พวกมันต้องทนทุกข์ทรมานมาอย่างยาวนาน แต่เรามีความยินดีที่ตอนนี้หมีเหล่านี้ได้มีชีวิตอยู่ในสถานที่ที่สงบสุขและไม่มีอันตรายอีกต่อไป”

คุณ Dung Nguyen รองผู้อำนวยการ Education for Nature ประจำประเทศเวียดนาม กล่าวว่า : “การเข้าช่วยเหลือหมีทั้ง 5 ตัวนี้ทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายในการยุติการทำฟาร์มหมีในประเทศเวียดนามขึ้นไปอีกก้าว ซึ่งนับว่าการทำฟาร์มหมีนั้นกำลังอยู่บนฟางเส้นสุดท้ายและชัยชนะของเราก็อยู่ไม่ไกล”

ดร. Jan Schmidt-Burbach ที่ปรึกษาด้านสัตว์ป่าโลก องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก กล่าวว่า : “การทำฟาร์มหมีในทวีปเอเชียเพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคดีหมีและชิ้นส่วนหมีนั้นส่งผลกระทบอย่างมากต่อจำนวนหมีในป่า”

“การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติควรเป็นไปในทิศทางการปกป้องสัตว์ป่าและให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับทางเลือกอื่นๆที่สามารถทดแทนผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าได้”

ร่วมเคลื่อนไหวกับเรา

สมัครรับข่าวสารจากเรา เพื่อรับทราบข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อยุติอุตสาหกรรมที่ทำทรมานสัตว์นี้ และแคมเปญอื่นๆของเราเพื่อปกป้องสัตว์ป่าทั่วโลก