โคโรน่าต้นตอที่มาจากความโลภ
ข่าว
ในตอนนี้การระบาดของโควิด 19 ได้ทำให้คนบนโลกใบนี้ติดเชื้อทะลุเกิน 1,000,000 คนไปแล้ว และมีคนเสียชีวิตไปกว่า40,000 คน ในขณะที่ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วไปกว่า 190,000 คน สถิติเหล่านี้ยังคงพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
หากลองย้อนรอยของต้นตอของโรคระบาด ก็เป็นอันพอจะทราบดีว่าจุดเริ่มต้นมาจากสัตว์ป่าที่ถูกขายในตลาดมืด ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แหล่งรวมสัตว์ป่าแปลกๆ ของผู้นิยมกินอาหารแปลก และรวมไปถึงการนำสัตว์เหล่านี้มาเป็นสัตว์เลี้ยงอีกด้วย
ปัจจุบันยังมีนกกว่าล้านตัว สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ปลา และสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ที่เป็นสัตว์แปลกถูกนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของมนุษย์ที่บ้าน เพราะพวกเขามีความคิดที่ว่า ฉันซื้อมันเพราะรักสัตว์ แต่หลงลืมไปว่า สัตว์เหล่านี้มันไม่สามารถใช้ชีวิตแบบวิถีธรรมชาติของมันใน “บ้าน” ที่แท้จริงได้
และด้วยการที่สัตว์ป่าเหล่านี้กลายมาเป็น “สินค้าฮิต” ของการขาย พวกมันก็จะถูกผสมพันธุ์เพื่อขยายพันธุ์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น งู นกแก้ว อีกัวน่า เต่า หรือนาก ซึ่งมันเป็นความทารุณทั้งนั้น และกระบวนการมันเติบโตเร็วมากด้วยเช่นกัน และเส้นทางของสัตว์ป่าแล้วนี้ มักลงเอยด้วยความตายในตลาดมืด หรือระหว่างการเดินทาง พวกมันมีโอกาสตายค่อนข้างสูงในระหว่างทางที่พวกมันถูกส่งตัวมาก่อนจะถึงปลายทาง
สิ่งมีชีวิตที่สั่งผ่านโลกออนไลน์ได้ง่ายๆ
ถ้าลองได้เข้าไปในแอฟโซเชียลตั้งแต่ Instragrame, Youtube, Weibo หรือ Facebook
ก็จะพบกับรูปภาพและวีดีโออันหลากหลายของเหล่าบรรดาสัตว์ป่า มีการวิจัยพบว่า ภาพวีดีโอของสัตว์ที่แสดงพฤติกรรม “อันน่ารัก” ผ่านทางโซลเชียลเหล่านี้ล้วนแต่กระตุ้นแก่บรรดา “ผู้ใคร่นิยม” ชมชอบสัตว์ป่าเป็นอย่างมาก และมีการซื้อสัตว์ป่าผ่านช่องทางยูทูปสูงถึง 15 เปอร์เซ็นต์กันเลยทีเดียว
นี่ยังไม่นับรวมถึงช่องทางโซเชียลอื่นๆอีก เพราะการขาดนโยบายที่เด็ดขาดและชัดเจนในเรื่องการซื้อสัตว์ป่าเพื่อมาเป็นสัตว์เลี้ยง เป็นการเปิดช่องว่างอย่างมากในการซื้อสัตว์ป่ามาเลี้ยงแบบผิดกฎหมาย และในขณะที่บางประเทศก็เปิดการซื้อขายอย่างโจ๋งครึ่ม และราคามันก็ถูกซะจนน่าตกใจ ยกตัวอย่าง นกแก้วขนาดเล็ก หรือมีชื่อน่ารักๆ ว่า เลิฟเบิรด์ นกแก้วขนาดเล็กที่มีขายในราคาเพียง 3 ดอลล่าสหรัฐเท่านั้น
รวมไปถึงอีกัวน่าสีเขียว ราคา 12 ดอลล่าสหรัฐ แต่นกแก้วหางยาวจะมีราคาสูงถึง 19,000 ดอลล่าสหรัฐ ส่วนยีราฟ ราคาอยู่ที่ 50,000 ดอลล่าสหรัฐ
มีการสันนิษฐานว่างูหลามอาจเป็นต้นตอของ COVID-19
อีกหนึ่งสัตว์ป่ายอดนิยมนั่นคืองูหลาม มีการสันนิษฐานว่างูหลามอาจเป็นต้นตอของการแพร่ระบาด COVID-19 ซึ่งมันได้ถูกวางขายอยู่ในตลาดมืดเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เจ้าหน้าที่ขององค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกได้เข้าไปสำรวจฟาร์มเลี้ยงงูหลามในประเทศแอฟริกาใต้ พบว่าที่นี่เป็นศูนย์กลางของการขายและส่งออกเพื่อนำพวกมันมาเป็นสัตว์เลี้ยง
และฟาร์มแห่งนี้ก็เป็นศูนย์กลางในการค้าสัตว์ป่าชนิดอื่นๆด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นค้างคาว ตัวชะมด หรือสัตว์ป่าเลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการนำไปสู่โรคติดต่อระหว่างสัตว์สู่คน โดยเฉพาะเชื้อไวรัสที่ระบาดอย่างที่เคยเกิดขึ้นเช่น ซาร์ในปี 2002 หรือ อีโบล่าในปี 2013
ความเชื่อและความจริงเกี่ยวกับค่านิยมในการเลี้ยงงูหลาม
คนส่วนใหญ่ มีความเชื่อว่างูหลามเหมาะสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงสัตว์แปลก เพราะไม่ต้องดูแลอะไรมากนัก และพวกมันก็ไม่มีความรู้สึกในการรับรู้ แต่ความเป็นจริงแล้ว งูหลามมีความซับซ้อนมากกว่าที่คิด ทั้งทางด้านกายภาพและพฤติกรรมซึ่งจะพบได้ก็แต่ในป่าเท่านั้น พวกมันต้องการดูแลค่อนข้างพิเศษรวมไปถึงสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสม และที่สำคัญพวกมันรับรู้ได้เฉกเช่นสัตว์อื่น
เมื่อมันขาดการดูแลที่ดี งูหลามสามารถเกิดอาการเครียดได้ เกิดอาการบาดเจ็บ เกิดภาวะขาดสารอาหารและอาจตายได้ก่อนอายุขัยของมัน การผสมพันธุ์ที่ไม่ได้มาตรฐานก็จะทำให้พวกมันพิการหรือมีรูปร่างลักษณะที่ผิดแผกไปจากเดิมได้
และเรื่องน่าเศร้าอีกเรื่องเกี่ยวกับงูหลาม คือ ลวดลายสีสันบนตัวมัน เป็นที่นิยมมากของหมู่เหล่านักซื้อ พวกมันจะต้องถูกบังคับให้ผสมพันธุ์กันเพื่อให้เกิดสีและลวดลายตามความต้องการของตลาด แต่การผสมพันธุ์เหล่านี้มันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางด้านพันธุกรรม
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ พวกมันจะมีอาการ “การส่ายหัวไปมา” นั่นหมายถึงความบกพร่องด้านการสั่งการ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงกล้ามเนื้ออ่อนแรง และหางมันก็ยึดติดเกาะแน่นกับลำตัวมัน รวมถึงยังมีการบกพร่องในด้านอื่นๆ อีกมากมาย
เชื้อโรคที่แฝงมากับภัยของสัตว์ป่า
จะด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือแค่เพียงความต้องการของตนเอง นี่จึงเป็นสาเหตุที่เกิดการระบาดร้ายแรงที่ส่งผลต่อมนุษย์ มีข้อเท็จจริงที่ว่าพวกสัตว์เลื้อยคลานสามารถส่งเชื้อโรคที่ติดต่อจากสัตว์มาสู่คนได้ เรียกว่า Zoonotic Diseases ซึ่งสามารถทำให้คนเจ็บป่วยแต่ไม่แสดงอาการใดๆ หากดูจากภายนอก
และเมื่อสัตว์เหล่านี้ถูกนำมาขายเป็นสัตว์เลี้ยง คนขายหรือคนใกล้ชิดที่สัมผัสมันจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ เช่น เชื้อแบคทีเรีย Salmonella ที่เกิดขึ้นในประเทศแคนาดา โดยมีงูและหนูที่เป็นพาหะนำมาสู่คน ความน่ากลัวของเชื้อนี้คือ มันไม่แสดงอาการเจ็บป่วยในคนเลย และแม้ไม่ได้มีการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์เหล่านี้ ก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
สิ่งเดียวที่จะหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคเหล่านี้ได้คือการหยุดซื้อสัตว์ป่ามาเป็นสัตว์เลี้ยง รวมถึงการหยุดผสมพันธุ์สัตว์ที่ทำให้เกิดความทรมานกับสัตว์ป่า หากเราร่วมมือกันที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นกับสังคมเรา และช่วยให้สัตว์ป่าได้อยู่ในป่าในที่ๆ มันสมควรจะอยู่ ก็จะเป็นการหยุดและยับยั้งเชื้อโรคได้